Browser ของ Google ไม่ได้มีโปรแกรมป้องกันโฆษณาได้เต็มรูปแบบ แต่จะทำการตัดโฆษณาใน เว็บไซต์ที่มีการรบกวนผู้ใช้ และมีความยุ่งเหยิงมากเกินไป โดยที่ผ่านมา Google ได้รับการร้องเรียนจากผู้ใช้มากมายเกี่ยวกับโฆษณาบางรายที่กำลังรุกล้ำความเป็นส่วนตัวในการใช้งาน ซึ่งล่าสุด Chrome จะทำการแก้ไขปัญหานี้ โดยการนำโฆษณาออกจากเว็บไซต์ที่ไม่เป็นไปตามมาตรฐานของ Better Ads เริ่มในวันที่ 15 กุมภาพันธ์นี้

            หลังจาก Chrome ก้าวเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญของผู้ใช้หลายร้อยล้านคน จึงทำให้บริษัทตัดสินใจติดตั้งโปรแกรมป้องกันการโฆษณา โดยจะหยุดการทำงานของ Browser Extension เหล่านั้นเป็นระยะ ๆ ซึ่งปกติแล้วจะแบนโฆษณาทั้งหมด แต่การเปลี่ยนแปลงการบล็อกโฆษณาในครั้งนี้มีความสำคัญมาก เนื่องจากเบราว์เซอร์ของ Google ควบคุมเว็บไซต์ ทั้งบนเครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล และโทรศัพท์

            การเปลี่ยนแปลงการบล็อกโฆษณาของ Chrome ได้รับการออกแบบมา เพื่อกำจัดเว็บไซต์ที่เต็มไปด้วยโฆษณา หรือโฆษณาที่สร้างความน่ารำคาญ และรุกล้ำความเป็นส่วนตัวเกินไป โดย Ryan Schoen ผู้จัดการผลิตภัณฑ์ของ Google กล่าวว่าสำหรับแพลตฟอร์มเว็บไซต์ที่ทำงานบน Chrome จะมีสัญญาณให้เห็นถึงผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงแล้วประมาณ 42 เปอร์เซ็นต์ของเว็บไซต์ที่บริษัทได้เตือนว่าให้มีการปรับเปลี่ยนโฆษณา เพื่อให้ผ่านมาตรฐานของ Google เช่น LA Times, Forbes และ Chicago Tribune ซึ่งบริษัทต้องการให้เว็บไซต์เป็นสถานที่ที่ธุรกิจสามารถเจริญเติบโต และสร้างรายได้ แต่ก็ยังคงเป็นสถานที่ที่ผู้ใช้สามารถได้รับประสบการณ์ที่ดีได้ด้วยเช่นกัน การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้บริษัทจึงคาดหวังว่าสิ่งนี้จะสร้างความสมดุลให้กับระบบนิเวศของเว็บไซต์ได้

           แม้ว่าโฆษณาออนไลน์จะเป็นตัวช่วยกระตุ้นการเติบโตของเว็บไซต์ด้วยการให้เงินสนับสนุนเว็บไซต์ต่าง ๆ เช่น Google และ Facebook โดยไม่ต้องบังคับให้เราจ่ายค่าสมัครสมาชิกในการใช้งาน แต่โฆษณาก็มีข้อเสียมากมาย ทำให้การดาวน์โหลดเว็บไซต์ได้ช้า และใช้พลังงานจากแบตเตอรี่โทรศัพท์ของผู้ใช้มากเกินไป นอกจากนี้ยังสามารถติดตามพฤติกรรมออนไลน์ได้ด้วยการพยายามสร้างโปรไฟล์ที่มีประโยชน์ สำหรับการจับคู่โฆษณากับความสนใจของผู้ใช้ ซึ่งอาจทำลายสมาธิของผู้ใช้งานได้ ตลอดจนพวกเขายังสามารถทำหน้าที่เป็นสื่อกลางในการโจมตีทางคอมพิวเตอร์

Source : Theverge